กลยุทธ์การทำให้เว็บไซต์ติด Search Engine

กลยุทธ์การทำให้เว็บไซต์ติด Search Engine

1. ใส่ข้อมูลในระบบ Meta Tag ให้ครบทุกเพจ

แนวทางการใส่ข้อมูล
Title Page  ทำแรกที่ใส่ควรเป็นคำหลักคำแรก ที่เราต้องการเน้น ในหน้านั้นๆ ยิ่งถ้า Title Page คำแรก ตรงกับหัวเรื่องในหน้านั้นแล้วยิ่งดี

Decription เป็นคำขยายความเพื่อให้ผู้ที่ Search เราเจอได้อ่าน ดังนั้นตรงส่วนนี้ควรเป็นคำนำเสนอที่น่าสนใจถึงสิ่งที่เราต้องการนำเสนอที่อยู่ในหน้าดังกล่าว

Keywords คำแรกใช้วิธีเดียวกับ Title Page นั่นคือใส่คำหลักที่ต้องการเน้น ไว้แรกสุด จบแล้วคั่นด้วยเครื่องหมายคอมมา (,) แล้วเว้นวรรค 1 ครั้ง แล้วตามด้วยคำหลักคำต่อไป ... ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนครบคำหลักที่ต้องการจะใส่

กลยุทธ์การใช้คำหลักหรือ Keyword เพื่อให้ได้ผลสุดๆ

คำหลักที่ใช้ หรือ คำค้นหา ไม่ควรสั้น หรือเป็นคำที่มีความหมายกว้างเกินไป เช่น ท่องเที่ยว, ทัวร์, เสื้อ,  เสื้อยืด หรือ ของเล่นฯลฯ เป็นต้น เพราะเป็นคำกว้าง และมีการแข่งขันสูงเกินกว่าที่เว็บเปิดใหม่จะเข้าไปสู้ได้ และถึงจะติด ก็คงไม่ได้ช่วยเพิ่มยอดขาย เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่โอกาสจะเป็นลูกค้าของเราจริงๆ นั้น เวลาจะค้นหาสิ่งที่เขาต้องการ ส่วนใหญ่เขาจะใช้วิธีค้นแบบเจาะลงไปมากว่าที่จะค้นแบบกว้างๆ เช่น กรณีที่ลูกค้าต้องการสั่งทำเสื้อยืด รับรองได้ว่าลูกค้าปกติจะไม่ใช้คำว่า "เสื้อยืด" ในการค้นหาแน่นอน เพราะสิ่งที่เขาได้จะเป็นขยะกว่า 95% ทำให้ต้องเสียเวลาแยกแยะข้อมูลที่จะนำมาใช้งาน เพื่อให้ตรงกับความต้องการ ดังนั้นความน่าจะเป็นในการใช้คำที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะค้นหา คือ "บริการสั่งทำเสื้อยืด"

ทรรศนะในฐานะเจ้าของสินค้าหรือผู้ให้บริการ
เราในฐานะเจ้าของสินค้าหรือผู้ให้บริการ สิ่งที่เราต้องมองให้ออกคือ สินค้าหรือบริการของเรา มีจุดเด่น หรือมีคุณสมบัติพิเศษอะไรบ้าง หาเจอแล้วดึงคำนั้นออกมาใช้ เพื่อสร้างให้เป็นวลี เช่น ถ้าเราใช้คำว่า "ท่องเที่ยว" เป็นคำหลัก คงต้องรอไม่ต่ำกว่า 1 ปี เพื่อให้ติดหน้าต้นๆ (ไม่ใช่หน้าแรกนะครับ) แต่ถ้าเราเพิ่มคุณสมบัติพิเศษเข้าไปเช่น เราทำทัวร์เกี่ยวกับการเดินป่า เราก็ใช้คำว่า ท่องเที่ยวเดินป่า แบบนี้มีโอกาสเพิ่มขึ้น แต่้ถ้าระบุลึกลงไปอีก เช่น "ท่องเที่ยวเดินป่า เชียงใหม่" แบบนี้รับประกัน 100% ติดหน้าแรก ไม่เกิน 3-5 อันดับแรก หรือ "ทัวร์เิดินป่า เชียงใหม่" หรือ "ทัวร์ดอย เชียงใหม่" <-- เจาะจง ชัดเจน และตรงกลุ่ม นี่เป็นแค่ตัวอย่าง ลองไปประยุกต์ใช้กันตามสภาพสินค้า และบริการกันดูนะครับ

ทรรศนะในฐานะลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย
เพื่อให้การวิเคราะห์คำหรือวลี ที่จะใช้ในเว็บไซต์ของเราได้ผลยิ่งขึ้น เราจะต้องพินิจพิเคราะห์ด้วยว่า ถ้าเราเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นผู้ต้องการใช้สินค้าหรือบริการแบบที่เรามีอยู่ เขาจะใช้ไหนค้นหา เช่น คนจะไปเที่ยวเดินป่า คงไม่ค้นคำว่า ท่องเที่ยวเพื่อหาบริการ บริษัทที่ให้บริการเดินป่าแน่ (ถึงค้นก็คงเสียเวลามาก) ถ้าเขาต้องการซื้อเสื้อผ้าไซส์พิเศษ เขาจะค้นแบบไหน เพื่อค้นหาแล้วตรงกับสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด เช่น เสื้อผ้าคนอ้วน, เสื้อผ้าสำหรับคนอ้วน, เสื้อผ้าไซส์ XXXL (แยกละเอียดได้แบบนี้ จะช่วยเพิ่มคำค้นหาได้มากขึ้น นั่นหมายถึงโอกาสลูกค้าจะค้นพบคุณก็จะมากขึ้นด้วย) ซึ่งแต่ละคำ ถ้านำไปสร้างเพจใหม่ แล้วเน้นแต่ละคำ แล้วทำลิงค์เข้าไปหา ก็จะทำให้มีโอกาสติดทุกคำใน Ranking ดีๆ

การใช้คำที่เจาะจง เช่น "บริการสั่งทำเสื้อยืด",  "บริการรับสั่งทำเสื้อยืด"  หรือ "เสื้อผ้าสำหรับคนอ้วน" เป็นลักษณะของการใช้คำ นาม + คุณสมบัติพิเศษ คือ ไม่ได้ใช้แค่คำๆ เดียว แต่มีลักษณะพิเศษเข้าไปด้วย เราจะเรียกว่า วลี ซึ่ง การใช้วลี เพื่อเป็น Keywords ในการค้นหาจะดีกว่าการใช้คำโดดๆ คือ ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่า  การแข่งขันน้อย มีโอกาสติดหน้าแรก อันดับแรกๆ ได้ง่ายกว่า ช่วยประหยัดค่าโฆษณาได้สูง

2. อัพเดทเนื้อหาสม่ำเสมอ
การอัพเดทคือ การเพิ่มเนื้อหาเข้าสู่เว็บไซต์ และ การทำแบบสม่ำเสมอ จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ Search Engine เข้ามาแวะเวียนที่เว็บไซต์ของเราบ่อยๆ แต่ถ้าหากนานๆ อัพเดทที Search Engine ก็จะนานๆ เข้ามาที ตรงกันข้าม ถ้าอัพเดทประจำ Earch Engine ก็จะเข้ามา

ข้อดีของการที่เว็บไซต์มี เสิร์ชเอนจิ้น แวะเวียนเข้ามาบ่อยๆ สม่ำเสมอ คือ การติดใน Search Engine แบบรวดเร็ว บางทีเราอัพเดทเรื่องราวใหม่ๆ เข้าไปไม่ถึง 3 นาที เมื่อเราเข้าไป ค้นหาชื่อเรื่องที่เราเพิ่งอัพเดทเข้าไป ก็พบว่าแสดงผลอยู่ใน Search Engine แล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วคุณเองก็ทำได้ แค่อัพเดทบ่อยๆ และถ้าคุณใช้คำว่า site:ชื่อเว็บไซต์คุณ.com (.net) ที่ Google.com คุณก็จะเห็นจำนวนเพจที่ google.com เก็บหน้าเพจของคุณเอาไว้ ซึ่งหมายถึงว่า ยิ่งจำนวนมากเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะว่าโอกาสที่กลุ่มผู้ชม หรือลูกค้าเป้าหมายมีโอกาสค้นเจอก็มากเท่านั้น ดั้นนั้นควรหาทางเพิ่มจำนวนเพจให้เพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน (หมายเหตุ ตัวเลขบางวันอาจะไม่เท่าเดิม แต่ถ้าเราอัพเดิทประจำ มันจะเพิ่มขึ้นเสมอ - แม้บางวันมันจะลดลงก็ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นการทำงานของ Google ที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่เดี๋ยวก็จะกลับมาเหมือนเดิม)

3. สร้าง Link เพิ่ม ทั้งภายในและภายนอก

Link ที่เข้ามาภายในเว็บไซต์ จะเป็นเครื่องบ่งบอกว่าเว็บไซต์ได้รับความนิยม ดังนั้นเราจึงต้องพยายามทำให้เว็บไซต์ของเรามีลิงค์กลับเข้ามาให้มากที่สุด ยิ่งถ้าเป็นลิงค์ที่กลับเข้ามาจากเว็บไซต์ที่มี อันดับสูงกว่าเราก็ยิ่งดี และจะดีที่สุดถ้าเว็บไซต์ที่ลิงค์กลับมาหาเรานั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา ใกล้เคียงกับเราและมีอันดับสูงกว่าเรา ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากที่จะได้ลิงค์คุณภาพแบบนี้ แต่จำนวนที่มากพอของลิงค์ที่กลับเข้ามาในเว็บไซต์เรา ก็จะช่วยทดแทนได้

สำหรับลิงค์ภายใน หมายถึงการลิงค์ของเนื้อหาภายในเว็บไซต์ ซึ่งจะเป็นตัวบ่งบอกว่าเว็บไซต์ของเรามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกันและเป็น ช่องทางให้ Search Engine สามารถเข้าถึงเนื้อหาทุกหน้าได้อย่างทั่วถึง นั่นหมายถึง Search Engine สามารถเข้าเก็บข้อมูลได้ทุกเพจ เพื่อนำไปทำ Index ในระบบของ Search Engine เพื่อรองรับการค้นหาของผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย

แนวทางการเพิ่มลิงค์ภายนอก
1. เขียนเนื้อความที่จะใช้โฆษณาเว็บไซต์เราเก็บเอาไว้ เพื่อจะได้ Copy แล้ว วางโดยไม่ต้องพิมพ์ข้อความซ้ำๆ แบบเดิมบ่อยๆ
2. รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ที่ให้บริการลงประกาศ โฆษณาเว็บไซต์ฟรีให้มากที่สุด และค่อยๆ สะสมเพิ่มเอาไว้ เพื่อใช้ในการลงประกาศเว็บไซต์ของเรา
3. แวะเวียนไปลงประกาศเพิ่มเติม ทุกๆ 1 - 3 เดือน ในเว็บไซต์ที่เราเคยลงประกาศไปแล้ว

สิ่งที่เราจะขาดไม่ได้เลยคือ จะต้องใส่ URL (http://www.ชื่อเว็บไซต์เรา.com) ของ web page เราลงไปด้วยทุกครั้งที่เนื้อหาประกาศ เพื่อให้มีการลิงค์กลับมา และไม่จำเป็นต้องลิงค์กลับมาเฉพาะหน้าแรกนะครับ หน้าไหนที่เราต้องการให้ติดมากเป็นพิเศษ โดยทำตามคำแนะนำข้อ 1 - ข้อ 3 ข้างต้น